บทที่ 2 ตอนที่ 2
“ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง มันก็คงเป็นเช่นนั้นแหละครับ แต่ว่าใครกันล่ะ”
‘นั่นสิใครกัน?’ สเตฟาโนพยายามขบคิดแต่ก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้จึงทำได้แค่ถอนใจออกมาแรงๆ เพื่อระบายความกลัดกลุ้มเท่านั้นเอง
“พี่ก็กำลังหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ แต่รับรองได้ว่าไอ้ตัวการมันเละแน่” คำพูดเหี้ยมเกรียมเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของสเตฟาโน
แองเจลอสที่อยู่ปลายสายถึงกับหัวเราะร่วนออกมา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงความเดือดดาลแบบสุดๆ ของพี่ชายคนนี้ ปกติสเตฟาโนจะเป็นคนที่เงียบที่สุดในบรรดาพี่น้องทุกคน พูดน้อย แต่ฉลาดเป็นกรด แถมยังรักความเป็นส่วนตัวเป็นที่สุด เกลียดนักข่าวเข้าไส้ แต่นี่ต้องมาเผชิญหน้ากับฝูงนักข่าวจำนวนก่ายกอง คงเดือดน่าดู
“ได้คำตอบแล้วบอกผมบ้างนะครับ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้คนที่มันกล้าล้อเล่นกับเสือร้ายเมเนนเดซมันหน้าตาเป็นยังไง”
“หน้าตามันเป็นยังไงก็ช่าง แต่มันคงไม่รู้จักคำว่านรกล่ะมั้ง”
หนุ่มหล่อขั้นเทพกัดฟันกรอด เกรี้ยวกราดหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนัก เหตุการณ์ที่ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลกแบบนี้ ใครกันนะ? ใครกันที่มันกล้าทำเรื่องไร้ศีลธรรมกับเขาแบบนี้ มันช่างกล้านัก แต่ไม่นานหรอก ความกล้าที่มันภูมิใจนักหนาจะกลายเป็นดาบฆ่าตัวมันเอง
“โอ้โฮ...พี่ชายผม เห็นนิ่งๆ เงียบๆ นึกว่าจะหงิมๆ ซะอีก ที่แท้ก็โหดไม่ใช่เล่นนะเนี่ย”
แองเจลอสแซวมาตามสาย แต่มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้เส้นสายแห่งความเครียดบนใบหน้าหล่อลากไส้ของสเตฟาโนจางหายไปได้เลย
“พี่ไม่เคยทำใครก่อน แต่ถ้าถูกทำ พี่เอามันตายแน่ เอาละเจส พี่ถึงเพนต์เฮาส์แล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ”
“เอ่อ...ครับ พี่สเตฟไม่ต้องคิดมากนะครับ เดี๋ยวยังไงผมจะช่วยสืบให้อีกแรงว่าใครเป็นคนให้ข่าว”
ริมฝีปากหยักสวยสีสดของสเตฟาโนยกขึ้นน้อยๆ ดวงตาคมกริบฉายประกายเหี้ยมโหด
“ขอบใจมาก แต่แค่พี่คนเดียวไอ้อาชญากรคนนั้นก็หนีไม่พ้นแล้วล่ะ ขอบใจอีกครั้งนะเจส”
สเตฟาโนกดตัดสายจากน้องชาย ก่อนจะก้าวลงจากรถลีมูซีนคันงามด้วยท่วงท่าสง่างามแบบสุดกู่เมื่อบอดี้การ์ดในชุดดำทะมึนเปิดประตูรถให้ ร่างสูงใหญ่หกฟุตกับอีกเกือบๆ สี่นิ้วก้าวยาวๆ ไปตามพรมสีเข้มที่ถูกปูไว้ตลอดทางเดินทั้งตึกอย่างรีบเร่ง พนักงานในชุดฟอร์มของตึกที่ดีและสูงที่สุดในเอเธนส์ก้มศีรษะคำนับให้ด้วยความนอบน้อมก่อนจะกดลิฟต์แก้วขนาดใหญ่ที่มีไว้ต้อนรับแขกวีไอพีให้ทันที
ลิฟต์แก้วพาหนุ่มหล่อลอยสูงขึ้นมาสู่ชั้นบนสุดของตึกซึ่งเป็นเพนต์เฮาส์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มก้าวออกจากลิฟต์แก้ว เดินผ่านสระว่ายน้ำสีฟ้าครามขนาดใหญ่ ตรงเข้าไปยังห้องโถงภายในที่พักสุดหรูเลิศของตัวเองทันที เสื้อนอกถูกวางบนโซฟาราคาแพงระยับ ก่อนที่สเตฟาโนจะก้าวยาวๆ หายเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
เนกไทผ้าไหมสีเข้มถูกมือหนาสีแทนดึงมันออกด้วยความรำคาญ ก่อนที่เจ้ากระดุมเม็ดเล็กๆ ที่ลำคอและข้อมือจะถูกปลดออกด้วยเช่นกัน เปิดเผยแผงอกกว้างที่รกเลื้อยไปด้วยไรขนสีเข้มรำไร ร่างสูงใหญ่ไซซ์ฝรั่งทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หนังแท้สีดำตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานไม้มะฮอกกานีของตัวเอง
โน้ตบุ๊กราคาแพงระยับถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่กี่อึดใจสิ่งที่สเตฟาโนคลางแคลงใจอยู่ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
สเตฟาโน เมเนนเดซ นักธุรกิจอันดับต้นๆ ของโลกกำลังจะสละโสดกับสาวนิรนามในเร็วๆ นี้
‘บ้าชะมัด!’
กำปั้นที่แชมป์มวยโลกเจอยังต้องมึนถูกฟาดลงกับโต๊ะไม้ตรงหน้าด้วยความเดือดดาล ดวงตาสีนิลลุกโชนไปด้วยดวงไฟนับล้านดวง กรามแกร่งถูกขบเข้าหากันแน่นจนแทบระเบิด
“ต้องมีคนรับผิดชอบ!”
และไม่คิดจะรั้งรออะไรอีก มือใหญ่ของสเตฟาโนก็คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาเจ้าของสำนักพิมพ์ที่เขียนข่าวนี้ขึ้นมาในทันที และแน่นอนว่าหากไม่ได้คำตอบที่ถูกใจละก็ ไอ้สำนักพิมพ์นี้ถูกเผาแน่
“เป็นยังไงบ้างคะคุณเจส พี่ชายของคุณพูดอะไรบ้าง”
ภิญญาพัชฌ์เอ่ยถามสามีหนุ่มหล่อทันทีด้วยอาการอยากรู้อยากเห็นจนเก็บเอาไว้ไม่มิด แองเจลอสยิ้มหวานฉ่ำ เดินเข้าไปทรุดกายใหญ่ลงนั่งข้างๆ กับร่างอวบอิ่มของภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ รั้งร่างอรชรเข้ามากอด จากนั้นก็แถมจูบหนักๆ ที่กลีบปากอิ่มที่เผยอรออย่างรู้หน้าที่ด้วยความโหยหาเกินห้ามใจ
“ให้คิดยังไงเนี่ย ผัวอยู่นี่แต่ไปถามถึงพี่ผัวซะงั้น” พอเลิกจูบ พ่อตัวดีก็เริ่มต้นหาเรื่องทันที สาวน้อยยกมือบางของตัวเองตีเบาๆ ที่ต้นแขนกำยำนั้นด้วยความหมั่นไส้
“ดูพูดเข้าสิคะ ภิญอยากรู้จริงๆ ค่ะ อยากรู้ว่าพี่สเตฟโกรธไหม เอ่อ...หมายถึงจะทำยังไงต่อไปน่ะค่ะ” หญิงสาวรีบแก้ตัวทันทีเมื่อเห็นสายตาเคลือบแคลงของสามีหนุ่ม
แองเจลอสคลายอ้อมกอด จากนั้นก็เอนหลังพิงกับเก้าอี้ไม้ริมระเบียงด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะที่ภิญญาพัชฌ์ตั้งหน้าตั้งตาฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจเต็มเปี่ยม
“โกรธมาก”
“โกรธมากเลยหรือคะ แล้วพี่สเตฟจะทำยังไงต่อไปคะ”
